ยังกวนโค.Com สาระดีดีต้องที่ ยังกวนโค

กระบอกไฮดรอลิก อุปกรณ์ในด้านอุตสาหกรรมที่ต้องมีไว้ใช้งาน

เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับการใช้ชีวิตมากขึ้น แวดวงอุตสาหกรรมถือเป็นกลุ่มที่มองเห็นความเปลี่ยนแปลงได้เร็วที่สุด เพราะส่วนใหญ่เมื่อมีอุปกรณ์หรือเครื่องมือใหม่ ๆ ภายใต้นวัตกรรมที่ถูกคิดค้นขึ้นก็มักถูกใช้งานกับกลุ่มนี้อยู่เสมอ “กระบอกไฮดรอลิก” จึงถูกจัดเป็นอีกอุปกรณ์อีกชิ้นที่มีความสำคัญพร้อมสร้างผลลัพธ์ชั้นยอดเมื่อถูกนำมาใช้งาน จึงขอพาทุกคนไปรู้จักกับสิ่งนี้ให้มากขึ้นกว่าเดิม

รู้จักกับ “กระบอกไฮดรอลิก” คืออะไร

กระบอกไฮดรอลิก คือ อุปกรณ์ประเภทหนึ่งซึ่งทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนระบบไฮดรอลิกให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลักการสำคัญคือใช้แรงดันจากน้ำมันไฮดรอลิกเพื่อผลักหรือดึงตามแนวเชิงเส้นให้ไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อพลังงานไฮดรอลิกถูกเปลี่ยนสู่พลังงานกลก็ทำให้กระบอกสูบมีการเคลื่อนไหวและทำงานตามที่ระบุเอาไว้
อุปกรณ์ดังกล่าวมีการนำไปใช้งานกับกลุ่มอุตสาหกรรมหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้าง งานยานยนต์ในเชิงวิศวกรรม เครื่องจักรในอุตสาหกรรมการผลิต ลิฟต์ ไปจนถึงงานด้านวิศวกรรมโยธา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะบอกว่านี่คืออุปกรณ์ในเชิงนวัตกรรมที่สร้างความแตกต่างได้อย่างดีเยี่ยม

ประเภทกระบอกไฮดรอลิกที่นิยมใช้งานในปัจจุบัน

1. กระบอกไฮดรอลิกมาตรฐาน (Standard Hydraulic Cylinder)

ถือเป็นประเภทกระบอกไฮดรอลิกที่พบเจอได้ทั่วไปของงานอุตสาหกรรม องค์ประกอบและโครงสร้างพื้นฐานไม่ซับซ้อนมากนัก ติดตั้งได้หลายแบบไม่ว่าจะเป็นชนิดแรงดันต่ำ (Low pressure 70 bar) และแรงดันสูง (High Pressure 210 bar) เส้นผ่านศูนย์กลางเริ่มตั้งแต่ 32 – 250 มม. ช่วงชักมีความยาวตั้งแต่ 10 – 2,500 มม. ดูแลรักษาง่ายมาก ตอบโจทย์การใช้งานในทุกมิติ

2. กระบอกไฮดรอลิกแบบกลม (Welded Cylinder)

อาจเรียกในชื่อกลมเชื่อมก็ได้เช่นกัน ปกติแล้วกระบอกไฮดรอลิกประเภทนี้มักใช้กับบรรดายานพาหนะที่ต้องมีการเคลื่อนที่เป็นประจำ เช่น รถเครน รถดั๊ม รถขุดเจาะ เครื่องบิน เรือสำราญ เรือขนส่งสินค้า จุดเด่นสำคัญต้องยกให้กับความแข็งแกร่งในการรับแรงดันสูงถึง 350 bar (สำหรับรุ่น High Pressure) นี่จึงเป็นเหตุผลที่กระบอกสูบแบบกลมมักมีการออกแบบเฉพาะตัวเพื่อให้เหมาะสำหรับนำไปใช้งานเฉพาะทาง เส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 32 – 600 มม. ความยาวช่วงชักตั้งแต่ 10 – 2,500 มม.

3. กระบอกไฮดรอลิกคอมแพค (Hydraulic Compact Cylinder)

ประเภทสุดท้ายที่พบเจอได้บ่อยในการใช้งานไม่แพ้ตัวอื่น แต่ด้วยขนาดกะทัดรัดจึงมักเหมาะกับการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมด้านชิ้นส่วนต่าง ๆ เช่น งานแคล้มป์ งานจิ๊ก โครงสร้างหลักทำจากอะลูมิเนียมถือว่าแข็งแรงทนทานในระดับหนึ่ง ไม่ต้องกังวลเรื่องสนิม แรงดันมาตรฐานของการใช้งานจึงอยู่ราว 70 bar ช่วงชักส่วนใหญ่ไม่เกิน 100 มม. และกระบอกสูบดังกล่าวยังตอบโจทย์อย่างมากสำหรับการติดตั้งเซนเซอร์เพื่อระบุตำแหน่งลูกสูบ

ชิ้นส่วนสำคัญของกระบอกไฮดรอลิก

1. กระบอกสูบ

ทำหน้าที่ในการกักเก็บแรงดันภายในและเป็นเส้นทางให้แรงดังกล่าวถูกส่งต่อไปยังจุดหมาย ตัวท่อห้ามมีรอยต่อใด ๆ เพื่อป้องกันการรั่วซึม ผ่านกระบวนการขัดผิวเพื่อให้มันเงา ขนาดเพียงพอที่จะทำให้ลูกสูบสามารถเคลื่อนที่ได้ ทนทานต่อการใช้งาน

2. ฐานกระบอกสูบ หรือ ฝาครอบ

ทำหน้าที่ปิดช่องแรงดันบริเวณปลายกระบอกด้านหนึ่ง เชื่อมต่อกับตัวถังโดยวิธีเชื่อม สลักเกลียว หรือการใช้เหล็กเส้น ถือว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญในการติดตั้งกระบอกสูบ

3. ฝาสูบ

มีหน้าที่หลักในการปิดปลายกระบอกอีกด้าน หัวเชื่อมของฝาสูบต่อกับตัวกระบอกโดยใช้เกลียว โบลท์ หรือเหล็กเส้น มีการใช้ซีล โอริง แบบคงที่ระหว่างหัวและกระบอก

4. ลูกสูบ

จุดประสงค์สำคัญของชิ้นส่วนนี้คือการแยกโซนแรงดันภายในกระบอกสูบออกจากกัน ด้วยความแตกต่างของแรงดันดังกล่าวเวลาทำงานลูกสูบจึงสามารถยืดและหดตัวกลับมาที่เดิมได้

5. ก้านลูกสูบ

มักผลิตจากเหล็กรีดเย็นชุบโครเมียมแข็งยึดติดอยู่กับลูกสูบและยื่นออกมาจากกระบอกไฮดรอลิกผ่านบริเวณส่วนหัวของปลายก้าน

นอกจากชิ้นส่วนที่บอกมาแล้วก็ยังมีอีกหลายชิ้นที่ล้วนสำคัญและทำให้กระบอกไฮดรอลิกสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็น เสื้อกระบอกสูบ เสารั้ง ฝาท้าย ซีลกันฝุ่น บู๊ชทองเหลือง ซีลกันสึก ซีลกันกระแทก โอริง ฯลฯ

อย่างที่บอกว่ากระบอกไฮดรอลิกจัดเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญในด้านอุตสาหกรรมแทบทุกประเภท การใช้งานจึงต้องพิถีพิถันและใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อให้ผลลัพธ์ของชิ้นงานออกมาน่าพึงพอใจที่สุด