ปัจจุบันมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เกิดขึ้นเพื่อให้มนุษย์สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ซึ่งถ้าลองสังเกตแค่สิ่งรอบตัวไม่ว่าจะเป็นบ้าน อาคาร ถนนหนทาง การทำเกษตร ทั้งหลายไม่ใช่แค่ความเก่งกาจของวิศวกร ช่างรับเหมา สถาปนิก เกษตรกร หรือคนงานทั่วไปแต่ยังมี “เครื่องจักรไฮดรอลิค” หลายประเภทที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องและช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว พร้อมผลลัพธ์อันน่าประทับใจภายใต้ระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูง ตอบโจทย์ในทุกมิติของงานก่อสร้างไปจนถึงอุตสาหกรรมประเภทอื่นได้อย่างดีเยี่ยม
เครื่องจักรไฮดรอลิค คืออะไร
เครื่องจักรไฮดรอลิค คือ ประเภทของเครื่องจักรที่ถูกสร้างขึ้นมาทดแทนการใช้แรงงานคนเพื่อทำสิ่งต่าง ๆ โดยอาศัยพลังงานของเหลวอย่างน้ำมันไฮดรอลิคเป็นตัวกลาง (เนื่องจากมีจุดเด่นด้านการไม่ยุบตัว) ในรูปแบบอัตราการไหลบวกกับพลังงานความดันแล้วเปลี่ยนสู่พลังงานกลเพื่อเป็นตัวขับเคลื่อนให้ระบบต่าง ๆ สามารถทำงานให้ออกมาตรงตามวัตถุประสงค์ เมื่อน้ำมันจะถูกปั๊มแล้วส่งผ่านเข้าสู่มอเตอร์ กระบอกไฮดรอลิค ตามจุดต่าง ๆ จากนั้นตัวเครื่องยนต์จึงเกิดการทำงานขึ้นอยู่กับการตั้งค่าหรือการทำระบบว่าจะต้องมีคนคอยควบคุมหรือสามารถทำงานอัตโนมัติด้วยตนเอง
ซึ่งเมื่อพูดถึงระบบไฮดรอลิคจะมีลักษณะใกล้เคียงกับระบบนิวแมติกส์ตามกฎของปาสกาลซึ่งระบุเอาไว้ชัดเจนว่าเมื่อแรงดันใด ๆ จ่ายให้กับของที่มีการไหลภายในระบบปิดจากนั้นจะเกิดการส่งแรงดันที่มีความเท่ากันในทุกทิศทาง โดยระบบนี้จะใช้ของเหลวแบบอัดไม่ได้แทนการใช้ก๊าซอัดนั่นเอง
เหตุผลที่เครื่องจักรไฮดรอลิคได้รับความนิยม
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เครื่องจักรไฮดรอลิคได้รับความนิยมมากในอุตสาหกรรมหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้าง การขนส่ง การผลิตสินค้า ฯลฯ มาจากกำลังการทำงานสุดแข็งแกร่งจากแรงดันที่ถูกส่งผ่านท่อบวกกับระดับความหนาแน่นสูงของกำลังส่งโดยตัวกระตุ้นอื่นจึงสามารถใช้ประโยชน์จากพลังงานของเครื่องจักรประเภทนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้หลักสำคัญนั่นคือกระบอกสูบส่งถ่ายพลังออกมาเชิงแนวเส้นจากนั้นมอเตอร์ระบบไฮดรอลิคจะทำการส่งถ่ายพลังงานแนวรัศมี
จุดเริ่มต้นของเครื่องจักรไฮดรอลิค
หากย้อนกลับไปถึงการเกิดขึ้นของไฮดรอลิค ผู้คิดค้นและจดสิทธิบัตรคือ Joseph Bramah ดำเนินการไว้ในปี 1795 ซึ่งจุดเริ่มต้นเนื่องจากเดิมทีเขาต้องใช้เครื่องพลังงานไอน้ำในการทำงานและบ่อยครั้งผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นไปตามความคาดหวัง จึงเริ่มพัฒนาเครื่องแรงดันไฮดรอลิคจนค้นพบว่าเกิดกำลังการจ่ายพลังงานขนาดใหญ่พร้อมแรงดันมหาศาลของเครื่องตัวนี้มีมากกว่าเครื่องไอน้ำหลายเท่า การพัฒนาระบบไฮดรอลิคอย่างจริงจังจึงเกิดขึ้น หลังเขาลองใช้งานเครื่องจักรประเภทนี้แล้วปรากฏว่าให้ผลลัพธ์ด้านการตอกดีกว่าแรงคนและแรงไอน้ำ
เมื่อเครื่องจักรไฮดรอลิคเกิดขึ้นจึงเริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วทวีปยุโรปไม่ว่าจะเป็นการควบคุมเครนและเครื่องจักรต่าง ๆ ในท่าเรือของอังกฤษรวมถึงหลายประเทศ ไปจนถึงอุตสาหกรรมการผลิตเหล็ก ทำลิฟต์ ระบบการหมุนของสะพานข้ามจนต่อยอดสู่ศตวรรษที่ 20 และยังคงถูกใช้งานมาถึงปัจจุบัน
ส่วนประกอบเบื้องต้นของเครื่องจักรไฮดรอลิค
- 1. ถังสำหรับเก็บน้ำมันไฮดรอลิค
- 2. ปั๊มสำหรับสร้างแรงดันของน้ำมันไฮดรอลิคให้มีปริมาณสูงขึ้น
- 3. วาล์ว หรือจะใช้อุปกรณ์ใกล้เคียงกันเพื่อทำหน้าที่ควบคุมแรงดันทั้งในด้านทิศทาง ปริมาณของน้ำมันไฮดรอลิค
- 4. อุปกรณ์ในการเปลี่ยนแรงดันน้ำมันไฮดรอลิคสู่การเป็นพลังงานกล เช่น มอเตอร์ กระบอกสูบ ชุดลูกสูบ
- 5. ท่อสำหรับใช้ส่งต่อน้ำมันไฮดรอลิคเพื่อไปตามบริเวณต่าง ๆ ของเครื่องจักร
ความสำคัญของน้ำมันไฮดรอลิคในตัวเครื่องจักร
เมื่อศึกษาการทำงานและประสิทธิภาพของเครื่องจักรไฮดรอลิคมาตั้งแต่ต้น สิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นชัดเจนซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อเครื่องประเภทนี้นั่นคือ “น้ำมันไฮดรอลิค” เพราะเปรียบเสมือนกับตัวกลางที่จะส่งต่อไปยังจุดต่าง ๆ ของเครื่องเพื่อให้สามารถทำงานออกมาอย่างดี รวมถึงยังทำหน้าที่ระบายความร้อนไม่ให้เครื่องทำงานหนักมากเกินไป
น้ำมันไฮดรอลิคที่ได้คุณภาพต้องมีการใส่สารป้องกันไม่ให้เกิดฟองลดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ไม่มีปัญหาเรื่องการกัดกร่อน อีกทั้งยังน้ำมันยังช่วยป้องกันสนิมให้กับตัวเครื่อง และต้องแยกตัวจากน้ำได้ดีด้วย
รู้แบบนี้แล้วเชื่อว่าการใช้งานเครื่องจักรไฮดรอลิคของอุตสาหกรรมหลายแห่งจะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผลลัพธ์ที่ออกมาได้ยิ่งกว่าเคย ใครสนใจอยากติดตั้งกับธุรกิจของตนเองเริ่มต้นกันได้ทันที สิ่งที่ดีกว่ากำลังจะตามมาในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน